top of page

เศียรสยอง

Director

ภาม รังสี

วันที่เข้าฉาย

28 มกราคม 2558

บริษัทผู้สร้าง

บริษัท อนันตชัย ฟิล์ม จำกัด

บริษัทผู้ผลิต

แนวภาพยนตร์

Horror

นักแสดง

สิทธิชัย ผาบชมภู, กุลมาศ ลิมปวุฒวรานนท์, ภัคจิรา วิศววิสุทธิ์, สุเทพ สีใส

เรตภาพยนตร์

ความยาว (นาที)

88

เรื่องย่อ

ณ พื้นที่รกร้างห่างไกล และเร้นลับ ชาวบ้านใน จ.อยุธยา เรียกขานพื้นที่แห่งนี้ว่า “ดงฟ้อน” ย้อนหลังกลับไปเมื่อ 50 ปีก่อน ชายหนุ่ม (ผีพระเอก) ผู้รักในดนตรีไทยและมีความสามารถพิเศษรอบด้านทั้งโขน รำ ตีระนาด และอื่น เกี่ยวกับนาฎศิลป์ไทย ความใ่ฝ่ฝันที่อยากเป็นผู้นำ ผู้รอบรู้และเก่งในนาฎศิลป์ำไทย ปลุกวิญญาณแห่งเสียงและถ่วงท่าให้ทั่วทิศไทยได้ประจักษ์ในความสามารถตน แต่ชะตากรรมได้ทำให้ความใฝ่ฝันนี้มีอันสิ้นสุดลง โดยเขาได้ลักลอบคบหากับผู้หญิงคนเหนึ่งซึ่งเป็นคนรักของผู้มีอิทธิพลในถิ่นนั้น และในที่สุดทั้งคู่ก็โดนจับได้ สร้างความโกรธแค้นใ้ห้กับผู้มีอิทธิพลคนรักของหญิงสาวเป็นอย่างมาก หนุ่มชะตาขาดจึงโดนสั่งฆ่าอย่างน่าอเนจอนาถ เมื่อเขาตายแล้วนั้น วิญญาณที่เต็มไปด้วยความอาฆาตแค้นและยังผูกพันอยู่กับนาฎศิลป์ ดนตรีไทยอย่างเหนี่ยวแน่น ความน่าสะพรึงกลัวได้เกิดขึ้นในดงฟ้อน ทำให้ผู้คนในดงฟ้อนนี้กระจักกระจายแยกย้ายถิ่นฐาน เหลือไว้เพียงความรกร้างและคำกล่าวขานถึงความน่ากลัวของวิญญาณชายหนุ่มในชุดโขน เป็นที่ร่ำลือจวบจนปัจจุบัน โดยบอกไว้ว่าใครก็ตามที่รักในดนตรีไทย นาฎศิลป์ไทย ไปบนบานศาลกล่าวให้สำเร็จในวิชาชีพนั้น ก็จักสำเร็จ แต่ใครดูหมิ่นดูแคลนจักต้องมีอันเป็นไป ร่ำลือกันว่าช่วงชายหนุ่มตายไม่นานวิญญาณได้ออกหลอกหลอน จึงมีหมอผีมาทำพิธีจับวิญญาณใส่หม้อปิดผนึกด้วยผ้าลงคาถาอาคมขังวิญญานไว้และนำไปทิ้ง ณ แม่น้ำแห่งหนึ่ง ผ่านมานานหลายปีจนวัตถุนั้นไหลตามธารไปติดธรณีใต้น้ำกับกลุ่มโขลงช้างที่กำลังเล่นน้ำและย่ำเหยียบพื้น และทันใดนั้นเท้าของช้างเชือกหนึ่งก็เหยีบที่วัตถุขังวิญญาณแตกลง สิ่งเหลือเชื่อก็เกิดขึ้น ช้างทุกเชือกส่งเสียงร้องดังสดุดีผู้กล้า จวบจนปัจจุบัน เมื่อเวลา 13.00 น. ณ เพนียดช้างแห่งนี้ยังคงอยู่พร้อมเป็นแหล่งที่ท่องเที่ยวแต่ทุกวันจะหยุดทำการตั้งแต่เวลา บ่ายโมง ถึง บ่ายสามโมง เป็นอย่างนี้มานานหลายปี ณ เหตุการณ์ปัจจุบัน เริ่มต้นจากคนกลุ่มหนึ่งที่ฝ่าฝืนเข้าไปในดงฟ้อนด้วยเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด นั่นคือ เด็กแวนซ์มือปล้นรุ่นกระเตาะ (เน วัดดาว) ได้นำทีมลูกน้องเข้าปล้นร้านมินิมาร์ทแห่งหนึ่งในอยุธยา และในคืนวันเดียวกันนั้น กลุ่มวัยรุ่นกลุ่มหนึ่ง นำทีมโดย จิม (บอย เอเอฟ) ก็ได้พาพรรคพวกพร้อมกับสาวๆ ที่พบเจอกันในผับ ขับรถมาเพื่อพัก ณ รีสอร์ทของญาติตนเองแถวอยุธยา ระหว่างทางนั้น กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวได้แวะมินิมาร์ทที่แก๊งค์เด็กแวนซ์กำลังทำการปล้นอยู่ โดยไม่รู้เลยว่าข้างในกำลังเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น พวกเขาแค่จะแวะซื้อเบียร์และเครื่องดื่มเพื่อไปสังสรรค์กันต่อที่รีสอร์ทเท่านั้น แต่เมื่อเปิดประตูมินิมาร์ทเข้าไปก็พบว่า หัวหน้าแก๊งค์เด็กแวนซ์กำลังเอาปืนจ่อหัวเจ้าของร้านอยู่ ในขณะที่ลูกน้องก็กำลังกวาดเก็บเงินและของภายในร้าน กลุ่มวัยรุ่นตกใจกับเหตุการณ์ที่ได้พบและจะถอยออกนอกร้าน แต่ก็ถูกแก๊งค์เด็กแวนซ์ใช้ปืนจี้จับตัวไว้ ในช่วงที่เกิดการชุลมุนวุ่นวายในร้านนั้นหัวหน้าแก๊งค์เด็กแวนซ์ได้ทำปืนลั่นใส่เจ้าของจนเสียงชีวิต เขาตกใจมา เขาไม่ได้ตั้งใจจะมาฆ่าใคร สิ่งที่เขาคิดได้ในขณะนั้นคือ เขาและลูกน้องต้องหนี แน่นอนพวกเขาไม่อาจจะปล่อยกลุ่มวัยรุ่นที่เห็นเหตุการณ์ไปได้ สิ่งที่พวกเขาทำคือการเอาปืนจี้และบังคับจับตัวกลุ่มวัยรุ่นนี้ไปด้วย หัวหน้าแก๊งค์เด็กแว๊นซ์รู้ดีถึงคำร่ำลือของดงฟ้อน เขาจึงคิดว่าเขาและพวกควรจะหลบไปกบดาน ณ ดงฟ้อนแห่งนี้ เพราะน่าจะเป็นที่ที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับพวกเขา เพราะเขารู้ดีว่าไม่มีใครกล้ากร่ำกรายเข้าไปยังดงฟ้อนนี้แน่นอน แต่ทว่า เขาคิดผิด เมื่อพวกเขาเข้าไปยังสถานที่แห่งนี้ ความน่าสะพรึงกลัวทั้งหลายก็เกิดขึ้น แม้พระธุดงค์ซึ่งสัมผัสได้ถึงเหตุการณ์ในอดีตมาบำเพ็ญภาวนาอยู่ ณ ดงฟ้อนแห่งนี้ ก็ยังไม่สามารถทำให้ความเฮี้ยน ความน่าสะพรึงกลัวเบาบางลงได้ พวกเขาจะต้องเผชิญความเฮี้ยน ความน่ากลัว อย่างไรบ้างและจะมีใครที่จะหลุดรอดจากดงฟ้อนนี้ไปได้หรือไม่ จุดจบของพวกเขาจะเป็นเช่นไร ผีดงฟ้อนจะเล่นงานพวกเขาอย่างไร และพระผู้ปักกลดบำเพ็ญภาวนาจะช่วยเหลือแก๊งค์เด็กแวนซ์และกลุ่มวัยรุ่นที่ถูกจับตัวไปด้วยได้หรือไม่ หรือทุกคนที่เข้าไปใน “ดงฟ้อน” จะไม่มีใครสามารถกลับออกมาได้เลย

ทีมงาน

bottom of page